เนื้อหามีการสปอยล์เนื้อเรื่องด้านเมคานิคและเนื้อหาบางส่วน
เนื่องจากคอมมิคในไทยปัจจุบันพึ่งโผล่มา
Full
Metal Panic Another ภาคต่อเนื่องจากภาคหลักจบไป10ปี
กล่าวถึงเรื่องราวของ อิจิโนเสะ ทัตสึยะเด็กหนุ่ม
ลูกชายเจ้าของบริษัทก่อสร้างที่หัดขับหุ่นก่อสร้างมาตั้งแต่เด็กๆและจับพลัดจับพลูต้องมาเป็นนักบินASให้บริษัททหารรับจ้างD.O.M.S.(Dana O'shee
Military Service)เพื่อช่วยบริษัทของพ่อ และทหารสาว อเดลีน่านักบินASฝีมือดีของบริษัท D.O.M.S.
(สลับคู่จากหนุ่มบ้าทหารกับสาวน้อยปกติ เป็นเจ้าหนุ่มปกติกับสาวน้อยบ้าทหาร)
ปัจจุบันคอมมิคออกมาถึงเล่ม 7 พี่ไทยค้างเล่ม2
D.O.M.S.(Dana O'shee Military Service) บริษัททหารรับจ้าง(PMC:Private
Military Corps) ติดอันดับ1ใน10ของโลก
บริษัทตั้งอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย ประเทศอเมริกา ติดด้านตะวันออกของLAใกล้ ฟอร์ดเออร์วินฐานฝึกซ้อมทหารของอเมริกา มีประธานคือเมลิซ่า เหมา
อดีตนักบินASของมิธริล และสามีของเธอโดยเริ่มจากใช้อุปกรณ์ที่เหลือของมิธริล
และอมัลกัมที่เก็บกู้มาได้ พร้อมทั้งบุคลากรจากมิธริลเดิม
ให้บริการด้านการฝึกซ้อมทหาร และการคุ้มกัน โดยเฉพาะการซ้อมรบด้วยAS และกลายเป็นที่กล่าวขวัญในวงการ
โดยมีลูกค้าหลักๆคือกองทหารอเมริกาและชาติในNATO
AS-1 Blaze
Raven AS ที่พัมนาโดย บริษัทญี่ปุ่น EHI manufacturing เป็น AS รุ่น3ตัวแรกของญี่ปุ่น
แต่ทว่าด้วยปัญหาทางการเมือง ทำให้โครงการทดสอบใช้งานจริง
และโครงการผลิตจำนวนมากเพื่อทดแทนรุ่น96ของJSDFถูกระงับ
จึงมีการหาช่องทางทดสอบโดยการใช้ช่องโหว่กฎหมายขายให้บริษัททหารรับจ้างเช่น D.O.M.S.
เพื่อนำไปทดสอบใช้งานจริงในพื้นที่ต่างๆทั่วโลก และใช้ชื่อ Blaze
Raven เพื่อเป็นการปกปิดที่มาของหุ่น จากเดิม AS-1 โดยเครื่องสีน้ำเงินกลายมาเป็น AS ประจำของ ทัตสึยะ
และสีแดงเป็นของอเดลีน่า
ข้อขยับทำออกมาได้อิสระมาก
ขยับได้เยอะ สะโพกยกได้สูง เข่าและศอกงอได้สุด
แต่ก็มีปัญหาเรื่องความแน่นหนาในบางจุดเช่นสะโพกที่หลวมง่ายและไหล่ที่หลุดง่ายก็จับทากาวช้างและลาเท็กซ์เสริมตามความเหมาะสม
ของที่มีในกล่อง
มือแบ มือถือดาบ มือถือปืน มือแบบแบบจับปลอกดาบ อย่างละคู่
ฮาร์ทพอยท์เสริมสำหรับติดดาบที่หลัง ชิ้นสำหรับติดฐาน
และดาบคัตเตอร์โมเลกุลเดี่ยวทรงคาตานะ
ชิ้นติดหลังเป็นสีเทา
ทั้งๆที่น่าจะเป็นสีดำ น่าเสียดาย
คัตเตอร์โมเลกุลเดี่ยวToshiba Type 10 สามารถติดที่ข้างสะโพก
หรือจุดติดเสริมที่หลังก็ได้ แรกๆเดือยเหมือนแน่น
ตอนนี้ใส่ไม่หลุดง่ายถ้าไม่ขยับเยอะๆแต่ก็ไม่ได้แน่นมาก
อาวุธที่มีมาให้มีเพียง
ดาบคัตเตอร์โมเลกุลเดี่ยวทรงคาตานะ เล่มเดียว แต่ดันให้มือถือปืนมาด้วย
เพราะชุดอาวุธมาพร้อมตัวลิมิต ZY-99M
Shadow (ลิมิตอีกแล้วบันได)
Agile Thruster ที่ไหล่ที่ออกแบบมาให้มีลักษณะแบบเกราะญี่ปุ่น ขยับได้อิสระพอสมควร
และเปิด ปิดทรัสเตอร์ได้ เป็นกิมมิคข้อขยับที่ทำได้ดีมากและสวยมากด้วย
เอาปืน Oto/Melara Boxer2 76mm Smoothbore Cannon ของเลวาทีนมาถือไปพลางๆก่อน
เทียบกับเลวาทีนและกบม่วง
บู๊กันซักหน่อย
AS-X Raven
Series เป็น AS รุ่น3ที่พัฒนาโดยบริษัทญี่ปุ่น
EHI manufacturing
ซึ่งแต่เดิมเป็นผู้ผลิตอาวุธและอุปกรณ์สำหรับ AS ของ JSDF
(Japan Self-Defense Forces:กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น)
แต่ทว่าไม่สามารถขยายไปตลาดต่างชาติได้เนื่องจากขาดการทดลองในสภาพแวดล้อมทั่วโลก
ทำให้มีการคิดค้น Raven Series โดยมุ่งจะทำการตลาดในระดับโลก
จึงได้หาช่องทางที่จะนำไปใช้ทดสอบภาคสนามจริงและได้ส่งออกไปจำนวนหนึ่ง Raven
Series นับได้ว่าเป็น AS ที่ใช้เตาพลังงานพาราเดียมรีแอคเตอร์รุ่นแรกของญี่ปุ่น(ของเดิมเป็นแก๊สเทอร์ไบน์เอนจินแบบรถถัง)
แต่ด้วยข้อตกลงระหว่งประเทศ
ทำให้ไม่สามารถติดอาวุธเก็บในตัวหุ่นได้(เช่นวัลแคนบนหัวของM9 หรือ มีดต่อต้านรถถึงซึ่งASหลายๆรุ่นจะซ่อนไว้ในตัวหุ่น)
นักพัฒนาพยามใส่ความเป็นญี่ปุ่นลงไปทั้งดีไซน์แบบเกราะญี่ปุ่น และอาวุธประเภทดาบ
เพื่อเป็นการโฆษณาแบบอ้อมๆให้ทั่วโลกรู้ถึงการมีอยู่ของ AS
ของญี่ปุ่น
ด้วยข้อมูลตามแบบแปลนของRaven Series นั้นนับได้ว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ
ASรุ่น3ทั่วไป ต่ำกว่า ZY-99 Shadow รุ่นลดสเปคของรัซเซียเพื่อการส่งออกซะอีก
แต่กลับมีค่า Output ของพาราเดียมรีแอคเตอร์สูงมากจนผิดปกติ
เพื่อใช้กับAgile Thruster ที่ไหล่
ทำให้สามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 350km/hr (มากกว่า M9 1.75เท่า) และกระโดดได้สูงถึง400m (M9โดดได้30-40m) ได้ ด้วยเทคโนโลยีArch Jet Engine
ซึ่งปกติจะใช้ได้เฉพาะในอวกาศ
แต่ด้วยกำลังขับมหาศาลของพาราเดียมรีแอคเตอร์ในตัวRaven Series ทำให้ใช้ในชั้นบรรยากาศได้ ทำให้สามารถเปลี่ยนทิศกลางอากาศได้
ร่อนได้ แต่ระบบดังกล่าวก็กินพลังงานมากทำให้ใช้ได้แค่10วินาทีแล้วต้องใช้เวลาชาร์จอีก
และการควบคุมยังใช้ระบบควบคุมด้วยมือและระบบจับเรตินาของนักบิน
ทำให้มีความยากในการใช้และยังเกิดประกายแสงขณะใช้ทำให้ตกเป็นเป้าได้ง่าย
AS-X Raven
Series Variation
Blaze Raven Kai
รุ่นรบระยะประชิดและกลาง
Blast Raven รุ่นเพิ่มอำนาจการยิงระยะไกล
Phantom Raven รุ่นเกราะเบา
Raven ทุกรุ่นติดตั้ง TAROS Lambda Driver ซึ่งลอกเลียนแบบมาจากซาก
ARX-7 Arbalest ที่โดนเบเรียลของเลโอนาร์ดทำลาย
แต่เนื่องจากไม่มีเวลาในการตรวจสอบมากพอก็ถูกชิงกลับโดยพวกมิธริลไปสร้าง ARX-8
ทำให้เลียนแบบได้บางส่วน รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานของAS ทำให้ออกมามีลักษณะคล้ายกับ ARX-7 ในด้านระบบ TAROSเองก็ทำได้เพียงจับคลื่นสมองนักบินแปลงเป็นคำสั่งสนับสนุนการบังคับเท่านั้น
ไม่สามารถสร้างพลังงานจากจินตภาพได้ แต่นั่นก็ทำให้การเคลื่อนไหวตอบสนองเร็วกว่า
ASทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงเวลาคับขัน และการควบคุมขณะเร่งความเร็วด้วย
Agile Thruster
สำหรับตัวนี้ผมตัดเส้นสีดำเพิ่มเพราะตัวที่มาดูจืดมาก
ด้านรายละเอียดนับว่าบันไดทำมาดี
แต่เสียแค่ของที่ให้มาน้อยมากเพราะช่วงที่บันไดวางขายก็ยังมีข้อมูลไม่มากนัก
แต่ดูจากชิ้นฮาร์ดพอยท์ก็เดาได้ว่ามันติดอะไรเพิ่มได้เยอะมาก ที่แย่คือนอกจากหอก Dragon Fly ที่ไปแถมกับกล่องลิมิตของ
ZY-99M เพราะออกมาทีหลังแล้ว
ปืนก็ดันไปแถมกับชาโดว์อีกทั้งๆที่ปืนช็อตกันมันของพื้นๆแท้ๆ
ด้านข้อขยับจัดท่าได้เยอะแต่ก็รำคาญบางจุดเช่นชิ้นเข่าหลุดง่ายเลยยัดกาวซะเลย
และข้อต่อบางส่วนเล่นมากๆก็หลวมต้องจัดกาว น่าเสียดายคนแต่ง FMP ไปง่วนทำ Amagi Brilliant Park ไม่ได้ทำอนิเมให้จบๆ
ภาค Another ที่ต่อมาก็หมดสิทธิโดยปริยาย ไม่งั้นสปอยล์เละ
โอกาสที่ร่าง2จะออกทามาชี่ก็หมดไปด้วย ไหนจะหุ่นตัว2ที่ว่ากันว่าอาจเป็นรุ่น4อีก