yunaW1

yunaW1

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[Review HGUC] V2 Assault Buster Gundam




Victory 2 Gundam เป็น MS ที่ถูกพัฒนาจาก 2nd Victory Gundam โดย League Militaire (2nd V พัฒนาจาก V เป็นรุ่นทดสอบมินอฟสกี๊ไดรฟ์ มีปรากฏในเกม) ติดมินอฟสกี๊ไดรฟ์ซิสเต็ม ทำให้สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วสูง และยังมีการพัฒนาอุปกรณ์เสริม Assault Part สำหรับจู่โจม และ Buster Part ที่ติดตั้งอาวุธหนัก และยังสามารถติดตั้งพร้อมกันเป็น Assault Buster ได้ด้วย

แผงจะมีแผงของ V2 Gundam เดิม และแผง Assault Buster มาด้วย

แผงของ V2 เดิม

แผงของ V2 เดิม แผงสีแดงและเทามีการเพิ่มพาร์ทใหม่เข้ามา

แผงของ Assault Buster


อุปกรณ์ในกล่องสามารถประกอบเป็น V2 ได้ แต่ทว่าจะไม่มีแผงบีมซาเบลและบีมชิลด์มาให้ แต่ดันมีด้ามดาบ


ปืนเมก้าบีมไรเฟิล มีรูเบ้อเริ่มซ่อนอยู่ ถ้าสังเกตก็จะเห็น แถมปลายกระบอกสีขาวเลื่อนเก็บไม่ได้

โล่เมก้าบีมชิลด์กั้นพ่นกันเหนื่อยแหง 3สีเลย

ปืนบีมไรเฟิลติดอุปกรณ์เสริมได้ด้วยการสวมเข้าไปเลย



กระโปรงหน้าสลับไปมาได้ควรจะหั่นเดือยเพื่อถอดใส่ได้ง่าย กระโปรงหลังถ้าจะใช้กระโปรงที่มากับแผงที่เพิ่มขึ้นมา(มีช่องติดอุปกรณ์เสริม) ก็ไม่น่าเกลียดอะไร กระโปรงข้างถอดเปลี่ยนได้ไม่ยาก


Buster Part ที่ขาต้องถอดชิ้นกลมที่น่องก่อนซึ่งต้องดันจากด้านใน เนื่องจากขามันผ่ากลางทำสีก็คงต้องติดกาวอุดขัด ทำให้ดันชิ้นกลมออกมายาก แต่ถ้ามีแหนบที่มีคอหักมุมก็จะดันชิ้นกลมออกมาได้ง่าย

หัวไหล่สามารถถอดเปลี่ยนชิ้นขาวเดิมกับ Assault Part ได้ไม่ยาก

ชิ้นสำหรับติดปีกที่กลางหลัง

ปีกของร่างปกติ และร่าง Buster จะประกอบคนละแบบ ด้านซ้ายแบบปกติจะใช้จอยท์เบ้าฝั่งรับ แต่ถ้าจะติดบัสเตอร์(ด้านขวา) จะใช้จอยท์ฝั่งหัวแทน แล้วจอยท์เบ้าฝั่งรับจะไปติดในBuster Part ซึ่งหากจะทำสีชิ้นปีกสีน้ำเงิน และชิ้นของบัสเตอร์ที่ผ่ากลางก็จะติดกาวอุดขัดทำให้แกะจอยท์ออกมาสลับไม่ได้ และทำให้ถ้าทำสีก็จะต้องเลือกว่าจะติดบัสเตอร์พาร์ทหรือไม่




แต่ก็มีวิธีแก้คือ แทนที่จะใช้จอยท์เบ้าฝั่งรับติดในBuster Part (ด้านซ้าย) ก็ใช้จอยท์ฝั่งหัวแทน และปีกเดิมก็ต่อแบบ V2ปกติไป (ด้านขวา) ก็จะติดได้เหมือนกัน แต่ว่า ปีกก็จะขยับได้ยากกว่า เช่นรูปที่3ชิ้นด้านขวาที่ไม่ประกอบตามแบบจะขยับได้ไม่สุดเท่าด้านซ้ายที่ประกบตามแบบ และชิ้นปีกเวลาพับแกนเพื่อติดเข้ากับ Buster Part มันจะถ่างออกเล็กน้อย แต่เวลาประกอบไปก็มองไม่เห็นรอยถ่าง แต่ก็เป็นวิธีเดียวที่จะประกอบอุดขัดทำสีแล้วยังเปลี่ยนเกราะไปๆมาๆได้


V2 Gundam


V2 Assault Gundam ติดตั้งเมก้าบีมไรเฟิล เมก้าบีมชิลด์ VSBRที่เอว และเกราะเสริม


V2 Buster Gundam ติดตั้ง เมก้าบีมแคนอน และ สเปรย์บีมพอด อุปกรณ์ยิงบีมลูกปรายที่ด้านหลัง และไมโครมิดไซล์พอด ที่กระโปรงหน้า กระโปรงหลัง และน่อง




ร่าง Assault Buster ติดตั้งอุปกรณ์ทั้ง2พาร์ทแบบเต็มอัตราศึก ถึงจะดูบ้าหอบฟาง แต่ก็สามารถยืนได้สบาย เมื่อติดอุปกรณ์ครบแลดูเตี้ยป้อมไปนิด ให้ดีคงต้องเสริมซัก2-3มิล ปืนที่หลังออกจะหลุดง่ายไปนิดเพราะเป็นบอลจอยท์ ถ้าทำสีคงแน่นกว่านี้ ชิ้นผ่ากลางเยอะ หัว/ขา/แขน/ไหล่/ปืน/ปีก/ปีกเสริมของบัสเตอร์/เมก้าบีมไรเฟิล/เมก้าบีมแคนอน/บีมสเปรย์พอด แถมกันพ่นเยอะพอสมควรซะด้วยเพราะมีจุดดำๆชิ้นใหญ่เยอะ เช่นข้อเท้า/หัวเข่า/แขน/ไหล่/กระโปรงข้าง

ยืนเทียบกับ Robot Spirits Crossbone Fullcloth จะเห็นว่าเตี้ยกว่าพอสมควร

ข้อดี
-             อาวุธเยอะ
-             ข้อขยับแน่นหนารับเกราะเยอะๆได้
-             สัดส่วนสวยกว่า Robot Spirit ที่ออกมานานแล้ว
-             สีทองดูดีกว่าสีทองรุ่นก่อนๆ ส่วนตัวคิดว่าดูดีกว่า BB Legend
-             ถ้าจะสลับเกราะไปๆมาๆก็ได้ แต่ต้องดัดแปลงนิดหน่อย

ข้อเสีย
-             ผ่ากลางกั้นพ่นเยอะตามดีไซน์ แถมปืนเมก้าบีมมีรูเบ้อเริ่ม
-             ไม่มีแผงบีมซาเบลกับบีมชิลด์
-             ปีกแสงพ่องบันได
-             บัสเตอร์พาร์ทที่หลังหลุดง่ายไปนิด

Tip & Trick


วิธีโมหัวผ่ากลางให้ถอดแยกชิ้นทำสีได้ที่ผมจะใช้ 1.ตัดชิ้นสีแดงด้านบนไปติดกับหัวด้านหลังเลย 2.เจาะช่องสำหรับดันชิ้นสีแดงขึ้นไปที่หัวด้านหลังด้านบนของเบ้าบอลจอยท์


วิธีโมแขนผ่ากลางให้ถอดชิ้นสีแดงออกมาได้ 1.ตัดตรงปลายศอกสีขาว (ชิ้นแขนด้านล่างชิ้นเดิม ชิ้นบนตัดปลายศอกแล้ว) อุดขัดปลายศอกได้ ส่วนรอยประกบเล็กๆด้านหน้าแขนในรูป2เดินลายเพิ่มเข้าไป

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[Figma Custom] Al-Azif จิตวิญญาณแห่งคัมภีร์เวทเนโครโนมิคอน




อัล อาทิฟ (Al Azif) จิตของคัมภีร์เวทมนต์ขั้นสุดยอด เนโครโนมิคอน ที่ถูกสร้างโดยจอมเวทย์อัลฮาเซดเมื่อ1000ปีก่อน เพื่อปราบความชั่วร้าย โดยที่อัลจะต้องคัดเลือกเจ้านายที่จะมาเป็นผู้ใช้พลังของตน จึงจะสำแดงพลังได้เต็มที่ อัลถูกไล่ล่าโดยองค์กรเวทมนต์ชั่วร้าย Black Lodge จนตกไปทับ ไดจูจิ คุโร นักสืบเวทย์ที่ถูกวานให้ตามหาคัมภีร์เวทมนต์โดย ฮาโด รูริ โดยบังเอิญ (เป็นชะตากรรม) และเลือกคุโรเป็นเจ้านาย พร้อมกับอัญเชิญ Demonbane จักรกลเวท Deus Machina ที่รูริเป็นเจ้าของเข้าต่อสู้กับBlack Lodge



Demonbane ซีรี่ย์เกมโนเวลของNitro+ ที่อ้างอิงตำนานคธูลู ของ H.P. Lovecraft มาผนวกเข้ากับจักรกลเวทมนต์ Deus Machina จำหน่ายในปี2003 โดยมี ไดจูจิ คุโร และอัลอาทิฟเป็นตัวเอก



อัล อาทิฟตัวนี้ผมโมจากฟิกสเกล Solid Theater โดยใส่จอยท์และชิ้นส่วนFigmaให้กลายเป็น Figma

ส่วนหน้าดัดแปลงผมของฟิกสเกลโดยทำให้มีลักษณะแบบฟิกมา ทำให้ถอดเปลี่ยนหน้าได้



ใบหน้าผมใช้พาร์ทหน้าของ Figma Fate Lighting Form มาเปลี่ยนสีตาและคิ้ว หน้ายิ้มของFigma Mayoiก็พอใส่ได้แต่ไม่ค่อยเข้าเท่าหน้าของพวกนาโนฮะตอนเด็ก

แขนใช้ของ Figma Shinobu (bakemonogatari) ส่วนแขนของฟิกสเกลถูกเจาะทำเป็นปลอกแขนทำให้ถอดสวมได้

ปีกที่หลังดัดแปลงด้วยจอยท์ใสของ Hobbybase ทำให้ขยับได้ (กรุณามองจอยท์ อย่างมองก้นเพลิน ฮา) ส่วนปลอกคอตัดริบบิ้นมาเย็บเป็นปลอกคอและเอาไฟลนเพื่อละลายให้ปมติดกันแน่น

ต้นขาใช้ของ Figma Shinobu (bakemonogatari) เพราะฟิกมารุ่นใหม่ก้นจะสวยกว่ารุ่นเก่าเยอะ (ฮา)





จัดท่าเดียวกับต้นแบบ Solid Theater

ปืนที่ก๊อปเรซิ่นาจากของบุโซสตราฟ เอามาแทนปืน Tyrant

ยืนเทียบกาซาปองกับเนนดรอยด์

จงมาจากฟากฟ้าแห่งความชิงชัง จงระบายความแค้นที่อยู่ในอก เราคือผู้ถือครองดาบทำลายล้างความชั่ว คมดาบอันบริสุทธ์ Demonbane

cthugha  Ithaqua

Lemuria Impact



เดคิเรเระ สไลม์ที่อัล อาทีฟเรียกมาใช้แทนเบาะนั่งหรือนอน อันนี้ของเนนดรอยด์

เริ่มทำตั้งแต่ปีก่อน แต่ต้องรอพารท์ที่อยากได้นั่นคือต้นขากับแขนของ Figma ชิโนบุ เลยมาเสร็จเอาเดือนนี้ ขั้นตอนที่เหนื่อยมากคือขั้นตอนหั่นเป็นชิ้นๆกับนั่งขัดนี่แหละเล่นเอาปวดข้อมือไปหลายวัน สีทำไม่กี่จุดเพราะพยามใช้ชิ้นเดิมให้มากที่สุด  

Demonbane เป็นเรื่องนึงที่ผมชอบมาก ตอนแรกซื้อเกมของPS2มาเล่นนึกว่าเป็นเกมขับหุ่น ที่ไหนได้เป็นเกมกดตอบ อ่านก็งูๆปลาๆ แต่เล่นไปซักพักกลับชอบ และเล่นจนจบ ชอบไอเดียที่ใช้มากไม่ว่าจะเหล่าตัวร้ายที่เอาชื่อเช่น เนโร ออกุสตุส คาริคูล่า มาใช้ ตำนานคธูลู หุ่นดีไซน์แปลกๆแต่เท่ห์ และโดยเฉพาะเหล่าคัมภีร์ที่น่าอ่านมาก เดาว่าเหล่าจอมเวทที่สร้างคัมภีร์มันเป็นโลลิคอนชัวร์ จิตคัมภีร์แต่ละเล่มชวนหมีมาก เนโครโลลิคอนชัดๆ(ฮา) ก็ตั้งใจว่าจะโมอัลอาทิฟจนมาเห็นฟิกเก่าของโซลิดเธียเตอร์ที่เป็น1/10จึงจัดมาหั่นซะใส่จอยท์เข้าไปจนออกมาเป็น Figma Al Azif