Gundam Age: AGE3 Heavy Orbit

1 ใน MS ของสหพันธ์ที่ถูกปรับปรุงเพื่อใช้ในเขตดาวพฤหัส โดยใช้ AGE-3 เป็นพื้นฐานเน้นการสนับสนุนการโจมตีด้วยอาวุธหนักจึงใช้พาร์ทของFortress แต่เพื่อให้ใช้ในเขตดาวพฤหัส และลอยตัวได้ในชั้นบรรยากาศ จึงมีการใช้พาร์ท Orbital เสริมเข้าไป ให้เป็นเหมือนป้อมปราการลอยฟ้า และยังติดตั้งอาวุธเสริมเข้าไปอีก

เนื่องจากติดตั้งอาวุธเสริมจำนวนมาก เพื่อให้สามารถควบคุมอาวุธได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงใช้นักบิน2คน แบ่งหน้าที่ควบคุมอาวุธและควบคุมการเคลื่อนไหว

อาวุธหลัก SigMaxiss Short Cannon มีขนาดเล็กลงจากของ Fortress เดิมทำให้ความรุนแรงลดลง แต่ทำให้ยิงได้ต่อเนื่องขึ้น

Twin DODS Cannons

อาวุธเสริม บีมแกตลิ่ง และ มิดไซล์ลูกปราย

อาวุธเสริมสามารถสลัดทิ้งได้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัว

รวมทีม

โมอีกตัวที่ผสมจากซากที่เหลือของ AGE-3 Orbital ขึ้นมาใหม่ ส่วนไหล่กะปืนที่แขนเอาของ AGE-3 SD มาใช้ทำให้ปืนดูเล็ก แต่ส่วนไหล่สมส่วนดี ตอนทำขึ้นมาใหม่ก็ได้พาร์ทเสริมอาวุธ Powered Arms Powereder มาใส่เข้าไปเพิ่ม ตอนแรกว่าจะเอาพาร์ท Amazing Weapon Binder มาติดเพิ่ม แต่จะดูรกมาก และจะติดแขน ติดแพ็คหลังกะอาวุธเสริมเลยไม่ได้ติด

โทนสีตอนแรกว่าจะทำขาวล้วนแบบ FAZZ แต่ไปๆมาๆมันจะดูจืดมาก เพราะดีเทลมันน้อย ไม่เหมือน MG เลยเลือกสีโทน Virtue Gundam สีขาวดำแทน สีก็ Black/White/Red madder/German Grey แล้วปิดด้วยเคลีย์ด้าน ทำออกมาเอาสนุกๆไม่ซีเรียส เน้นโละซากพร้อมๆกับ AGE2-Plus (ฮา)

Gundam Age: AGE2-Plus

หลังจากสงครามครั้งใหญ่ได้สิ้นสุดลง สหพันธ์และเวกันได้ทำสนธิสัญญาสงบศึก และเริ่มนำข้อมูลใน Exa-DB มาวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการขยายถิ่นที่อยู่สู่อวกาศ และจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ายังมี Exa-DB ที่ถูกสร้างในเขตวงโคจรดาวพฤหัส สหพันธ์จึงจัดตั้งทีมสำรวจร่วมกับเวกัน นอกจากAge-FX Zephyr แล้ว สหพันธ์ยังนำแปลนของ AGE2 มาปรับปรุงเพื่อสนับสนุนการจู่โจมด้วยความเร็วสูง เป็น AGE2-Plus

AGE2-Plus ถึงจะสร้างจากแปลนของ AGE-2 แต่เพื่อปรับแต่งเน้นความเร็ว จึงลดเกราะลงให้น้ำหนักเบา เน้นการพุ่งเข้าตีด้วยความเร็วสูงความคล่องตัวจึงลดลง

อาวุธหลัก SigMaxiss Long Cannon

ติดตั้งบีมซาเบลมาตรฐานสำหรับต่อสู้ระยะประชิด

Strider Mode

รูปคู่ตอนทดสอบกับ AGE-002 7 Blade

จริงๆแล้วเจ้านี่คือการเอาซากโมที่เหลือจากการทำ AGE-002 7 Blade มารวมกันเป็นตัวใหม่ ตั้งใจจะทำตั้งแต่ตอน ทำ AGE-FX Zephyr เสร็จว่าจะเอาชิ้นส่วนที่เหลือมาทำMS เป็นทีมแบบ Task Force Alpha ของ S-Gundam ที่จะมี Z-Plus กับ Fazz อยู่ในทีมด้วย แต่ด้วยความขี้เกียจ ไปทำโน่นทำนี่เลยเสร็จเอาป่านนี้ (ฮา) หลักๆก็เอาไอเดียของ Z-Plus C1 มาเป็นแบบ แล้วโมยำๆของที่มีเข้าไป

สีที่ใช้คือ Aircraft Grey / White / Blue แล้วปิดด้วยเคลีย์ด้าน ทำแบบไม่คิดอะไรมากเอาสนุกๆ ตอนแรกจะติดดีคอล ไปๆมาๆหาที่ถูกใจไม่ได้เลยไม่ได้ติด (ฮา)

[Review+Custom Robot Spirit] Extreme Gundam Type Leos Xenon Phase & Burning Xenon Phase

ในยุคอนาคตอันห่างไกล แม้จะมีเทคโนโลยีก้าวหน้าไปไกลกว่ายุคใดๆแต่มนุษยชาติกลับถดถอย เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวได้มีการจัดตั้ง JupiterXในแถบดาวพฤหัส เพื่อค้นหาวิธีวิวัฒนาการจากข้อมูล GA(General Answer) ข้อมูลโลกเสมือนจริงที่บันทึกประวัติศาสตร์มนุษยชาติเอาไว้ โดยให้นักบินG-Diverไดรฟ์เข้าไปในโลกอดีตเสมือนจริงเพื่อเก็บข้อมูลการต่อสู้จากเหล่านักบินMSในอดีต เพื่อนำกลับมาวิเคราะห์การวิวัฒนาการของคนเหล่านั้น

Extreme Gundam เป็น MS ที่ถูกพัฒนาในโลกข้อมูลเพื่อให้สามารถไดรฟ์ไปในข้อมูลGAยุคต่างๆได้ และสามารถนำข้อมูลที่เก็บมาได้เพื่อพัฒนา Extreme Gundam ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีเครื่องแรกสีน้ำเงินเป็นของ EX และ สีแดง Extreme Gundam Type Leos ของเลออส อารอยด์

ของที่มีมาในกล่อง ดาบแทคิอนนสไลเซอร์2เล่ม มือ 4คู่(มือแบ2แบบ กำหมัดและถือดาบ) เอฟเฟกท์เกราะขา

เกราะสำหรับสลับเปลี่ยนเป็น Xenon Phase (ไม่รวมเกราะไหล่ที่มุมบนขวาและซ้ายนะ)

การขยับ ขยับได้มาก และข้อต่อแน่นหนาดีมาก เสียแค่ช่วงสะโพกยังเป็นแบบเก่าทำให้ขยับได้ข้อเดียว ไม่เหมือนรุ่นใหม่ที่มีข้อขยับอีก1จังหวะ ซึ่งทำให้คุกเข่าได้สวยกว่ามาก

อาวุธในร่างนี้ที่มีมาให้มีเพียงแทคิออนสลเซอร์บีมซาเบล ซึ่งมีมือเฉพาะมาให้ด้วย ซึ่งเอามือถือดาบไปถือปืนของตัวอื่นก็พอได้แต่มันจะขัดๆและหลุดง่าย มือถือปืนต้องไปซื้อกล่องเสริม

ลองถือปืนของ1/144 Re-Zelดูเข้าดีแฮะ

สภาพตอนถอดชิ้นเกราะออก แบ็คแพ็คจะถอดชิ้นส่วนได้ทั้งด้านบนและล่างเพื่อติดเกราะเสริม ด้านบนไว้ติดปีกของAgios Phase ที่ต้องซื้อพาร์ทแยก

ดึงแพ็คหลังออกเหมือนมีไว้ให้เปลี่ยนพาร์ทได้อีกแฮะ

Extreme Gundam Type Leos Xenon Phase

ร่างพัฒนการต่อสู้ระยะประชิดที่เลออสเก็บข้อมูลมาจากการต่อสู้กับShinning Gundam ของโดมอน คัช เกราะขาที่เสริมขึ้นมาติดตั้งบูสเตอร์ปรับทิศทางได้เพื่อใช้ในการพุ่งเข้าใส่หรือเพิ่มพลังเตะ เกราะแขนติดตั้งไชนิ่งบังเกอร์สามารถยิงบอลพลังงานหรือใช้พุ่งเข้าโจมตีโดยตรงได้

เกราะขามีบูสเตอร์ปรับได้หลายทิศทาง

มีพารท์เอฟเฟกท์สำหรับตอนเร่งพลังเต็มที่ไว้เปลี่ยนกับตอนปกติ

แพ็คหลังสามารถเปิดบูสเตอร์เสริมเพื่อเร่งความเร็วชั่วพริบตา

ไชนิ่งบังเกอร์สามารถเปิด/ปิดเวลาใช้โจมตีได้ งานละเอียดมากขยับได้แม้จุดเล็กๆ

การขยับหลังติดเกราะ Xenon Phase จะขยับได้น้อยกว่าเพราะติดเกราะ

ภาพรวมของโรบอท ทามาชี่ Extreme Gundam type Leos Xenon Phase ทำออกมาได้ดีมาก ขยับได้มากและแน่นหนา ตัวเกราะถอดเปลี่ยนได้ไม่ยาก และมีลูกเล่นเยอะ ตัวที่รีวิวมีการตัดเส้นด้วยอินาเมลแล้ว

ข้อดี

-             สัดส่วนสวยกว่ากันพลา และเปลี่ยนเกราะ Xenon Phase ได้ ซึ่งกันพลาไม่มี

-             ข้อขยับแน่นหนากว่ากันพลา (ข้อขยับบางจุดเป็นโลหะ และเป็นพลาสติคประเภทที่ทนทานกว่า)

-             งานสีทำออกมาค่อนข้างดีและละเอียดในระดับนึง

-             ข้อขยับจุดรายละเอียดเล็กๆทำได้ดี

ข้อเสีย

-             เกราะ Agios และ Eclipse Phase ขายแยก พ่องบันไดแพง

-             ราคาแพงกว่ากันพลาเล็กน้อย ถ้ารู้จักแหล่งหาของดีๆอาจได้ราคาไม่แพงกว่า HGUCตัวใหญ่ๆเท่าไหร่

-             ข้อขยับสะโพกเป็นแบบเก่าคุกเข่าไม่สวยเท่ารุ่นใหม่ที่เสริมมาอีก1จังหวะ

-             เกราะข้อเท้ามีการวางตำแหน่งจอยท์ไม่ดีอาจติดขัดเล็กน้อยตอนขยับ

Extreme Gundam Type Leos Xenon Burning Xenon Phase

ร่างพัฒนาจากการต่อสู้กับ Try Burning ของคามิกิ เซไค (ฮา)

เกราะไหล่เสริมที่เพิ่มบูสเตอร์ขยับได้หลายทิศทาง

Burning Burst Mode

จิเกนฮาโอริว โซเทน กุเรนเคน

จิเกนฮาโอริว เซย์โซเกริ

Burning Bunker

ปีกแห่งแสง (ช่องติดเอฟเฟกท์ไฟที่ซ่อนไว้ที่บูสเตอร์ที่ไหล่ติดอุปกรณ์ได้หลายอย่าง)

เอาโรบอท ทามาชี่มาโมเพิ่ม โดยพาร์ทของกันพลา ไหล่ของ SD AGE3 Orbital มาโมติดเข้าไป แบบสวมทับเกราะไหล่เดิม บูสเตอร์เสริมติดข้อขยับเพิ่มจากชิ้นพาร์ทจอยท์ของ Powered Arms Powereder รวมถึงจุดติดอุปกรณ์เสริมที่ซ่อนไว้ให้ติดเอฟเฟกท์ไฟ สีทำเฉพาะชิ้นที่เพิ่มจากโรบอททามาชี่เท่านั้น ตัวโรบอทไม่ได้ทำสี สีแดงใช้พ่นรองพื้นขาว และทับด้วยสี Mr.Color H86 Red madder เพื่อให้สีคล้ายสีของโรบอท ทามาชี่เลยไม่ต้องทำสีโรบอททั้งตัวให้เหนื่อย (ฮา)

เลออส “มาสู้กัน คามิกิ เซไค ขอเรียนรู้พลังของบิลด์ไฟเตอร์หน่อยเถอะ”

เซไค “แต่ชั้นไม่ได้ต่อเองนะ ยูมะต่อให้”

สเตเซีย “นั่นมันกันพลาแบทเทิลนะไม่ใช่สงคราม”

เลออส “งั้นขอเรียนรู้ จิเกนฮาโอริวก็ได้”

เลออส “มาสู้กัน ซางาระ โซสุเกะ ขอเรียนรู้พลังของแลมด้าไดรเวอร์หน่อยเถอะ”
สเตเซีย”เลออส นั่นไม่ใช่กันดั้มนะ”

เลออส “มาสู้กัน คุรุรุงิ สุซากุ ขอเรียนรู้พลังของกีแอส ห้ามตายหน่อยเถอะ”

สเตเซีย”เอาที่มึงสบายใจเลย”

ได้โมโรบอททามาชี่ก็สนุกไปอีกแบบ ออกจะยากถ้าต้องทำสีทั้งตัวจริงๆเพราะทามาชี่ถอดข้อต่อหลายจุดไม่ได้ ซึ่งถ้าทำสีชิ้นคัสต้อมได้เหมือนสีตัวทามาชี่เลยก็จะง่ายขึ้นเยอะ ส่วนตัวคิดว่าจัดท่าขยับเล่นสนุกกว่ากันพลา ตัดเส้นก็สวยแล้ว ถ้าหาตัวที่ชอบได้ในราคาไม่แรงก็ถือว่าโอเคเลย ข้อต่อของตัวใหม่ๆแน่นหนาไม่เหมือนรุ่นเก่าๆแล้ว ยิ่งกันพลารุ่นใหม่ๆหันไปใช้จอยท์ All Gundam Project ซึ่งจุดอ่อนของมันคือหัวไหล่บอลจอยท์หลุดง่ายมาก ก็ยิ่งรำคาญ ที่สำคัญคือหลายๆตัวไม่ทำกันพลา1/144ใหม่แล้วเช่น เวอร์ซาโก้เชสเบรก เอเปี้ยนกันดั้มทั้งๆที่อุตส่าห์ออก DX กะ Wing 0 (แถมทามาชี่ทำสัดส่วน2ตัวนี้สวยกว่าอีก)