yunaW1

yunaW1

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

[Review Robot Spirit] As-1 Blaze Reven จิตวิญญาณแดนอาทิตย์อุทัย




เนื้อหามีการสปอยล์เนื้อเรื่องด้านเมคานิคและเนื้อหาบางส่วน เนื่องจากคอมมิคในไทยปัจจุบันพึ่งโผล่มา

Full Metal Panic Another ภาคต่อเนื่องจากภาคหลักจบไป10ปี กล่าวถึงเรื่องราวของ อิจิโนเสะ ทัตสึยะเด็กหนุ่ม ลูกชายเจ้าของบริษัทก่อสร้างที่หัดขับหุ่นก่อสร้างมาตั้งแต่เด็กๆและจับพลัดจับพลูต้องมาเป็นนักบินASให้บริษัททหารรับจ้างD.O.M.S.(Dana O'shee Military Service)เพื่อช่วยบริษัทของพ่อ และทหารสาว อเดลีน่านักบินASฝีมือดีของบริษัท D.O.M.S. (สลับคู่จากหนุ่มบ้าทหารกับสาวน้อยปกติ เป็นเจ้าหนุ่มปกติกับสาวน้อยบ้าทหาร) ปัจจุบันคอมมิคออกมาถึงเล่ม 7 พี่ไทยค้างเล่ม2

D.O.M.S.(Dana O'shee Military Service) บริษัททหารรับจ้าง(PMC:Private Military Corps) ติดอันดับ1ใน10ของโลก บริษัทตั้งอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย ประเทศอเมริกา ติดด้านตะวันออกของLAใกล้ ฟอร์ดเออร์วินฐานฝึกซ้อมทหารของอเมริกา มีประธานคือเมลิซ่า เหมา อดีตนักบินASของมิธริล และสามีของเธอโดยเริ่มจากใช้อุปกรณ์ที่เหลือของมิธริล และอมัลกัมที่เก็บกู้มาได้ พร้อมทั้งบุคลากรจากมิธริลเดิม ให้บริการด้านการฝึกซ้อมทหาร และการคุ้มกัน โดยเฉพาะการซ้อมรบด้วยAS และกลายเป็นที่กล่าวขวัญในวงการ โดยมีลูกค้าหลักๆคือกองทหารอเมริกาและชาติในNATO



AS-1 Blaze Raven AS ที่พัมนาโดย บริษัทญี่ปุ่น EHI manufacturing เป็น AS รุ่น3ตัวแรกของญี่ปุ่น แต่ทว่าด้วยปัญหาทางการเมือง ทำให้โครงการทดสอบใช้งานจริง และโครงการผลิตจำนวนมากเพื่อทดแทนรุ่น96ของJSDFถูกระงับ จึงมีการหาช่องทางทดสอบโดยการใช้ช่องโหว่กฎหมายขายให้บริษัททหารรับจ้างเช่น D.O.M.S. เพื่อนำไปทดสอบใช้งานจริงในพื้นที่ต่างๆทั่วโลก และใช้ชื่อ Blaze Raven เพื่อเป็นการปกปิดที่มาของหุ่น จากเดิม AS-1 โดยเครื่องสีน้ำเงินกลายมาเป็น AS ประจำของ ทัตสึยะ และสีแดงเป็นของอเดลีน่า



ข้อขยับทำออกมาได้อิสระมาก ขยับได้เยอะ สะโพกยกได้สูง เข่าและศอกงอได้สุด แต่ก็มีปัญหาเรื่องความแน่นหนาในบางจุดเช่นสะโพกที่หลวมง่ายและไหล่ที่หลุดง่ายก็จับทากาวช้างและลาเท็กซ์เสริมตามความเหมาะสม

ของที่มีในกล่อง มือแบ มือถือดาบ มือถือปืน มือแบบแบบจับปลอกดาบ อย่างละคู่ ฮาร์ทพอยท์เสริมสำหรับติดดาบที่หลัง ชิ้นสำหรับติดฐาน และดาบคัตเตอร์โมเลกุลเดี่ยวทรงคาตานะ

ชิ้นติดหลังเป็นสีเทา ทั้งๆที่น่าจะเป็นสีดำ น่าเสียดาย


คัตเตอร์โมเลกุลเดี่ยวToshiba Type 10 สามารถติดที่ข้างสะโพก หรือจุดติดเสริมที่หลังก็ได้ แรกๆเดือยเหมือนแน่น ตอนนี้ใส่ไม่หลุดง่ายถ้าไม่ขยับเยอะๆแต่ก็ไม่ได้แน่นมาก


อาวุธที่มีมาให้มีเพียง ดาบคัตเตอร์โมเลกุลเดี่ยวทรงคาตานะ เล่มเดียว แต่ดันให้มือถือปืนมาด้วย เพราะชุดอาวุธมาพร้อมตัวลิมิต ZY-99M Shadow (ลิมิตอีกแล้วบันได)
Agile Thruster ที่ไหล่ที่ออกแบบมาให้มีลักษณะแบบเกราะญี่ปุ่น ขยับได้อิสระพอสมควร และเปิด ปิดทรัสเตอร์ได้ เป็นกิมมิคข้อขยับที่ทำได้ดีมากและสวยมากด้วย


เอาปืน Oto/Melara Boxer2 76mm Smoothbore Cannon ของเลวาทีนมาถือไปพลางๆก่อน

เทียบกับเลวาทีนและกบม่วง


บู๊กันซักหน่อย                                                                                                        


AS-X Raven Series เป็น AS รุ่น3ที่พัฒนาโดยบริษัทญี่ปุ่น EHI manufacturing  ซึ่งแต่เดิมเป็นผู้ผลิตอาวุธและอุปกรณ์สำหรับ AS ของ JSDF (Japan Self-Defense Forces:กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น) แต่ทว่าไม่สามารถขยายไปตลาดต่างชาติได้เนื่องจากขาดการทดลองในสภาพแวดล้อมทั่วโลก ทำให้มีการคิดค้น Raven Series โดยมุ่งจะทำการตลาดในระดับโลก จึงได้หาช่องทางที่จะนำไปใช้ทดสอบภาคสนามจริงและได้ส่งออกไปจำนวนหนึ่ง Raven Series นับได้ว่าเป็น AS ที่ใช้เตาพลังงานพาราเดียมรีแอคเตอร์รุ่นแรกของญี่ปุ่น(ของเดิมเป็นแก๊สเทอร์ไบน์เอนจินแบบรถถัง) แต่ด้วยข้อตกลงระหว่งประเทศ ทำให้ไม่สามารถติดอาวุธเก็บในตัวหุ่นได้(เช่นวัลแคนบนหัวของM9 หรือ มีดต่อต้านรถถึงซึ่งASหลายๆรุ่นจะซ่อนไว้ในตัวหุ่น) นักพัฒนาพยามใส่ความเป็นญี่ปุ่นลงไปทั้งดีไซน์แบบเกราะญี่ปุ่น และอาวุธประเภทดาบ เพื่อเป็นการโฆษณาแบบอ้อมๆให้ทั่วโลกรู้ถึงการมีอยู่ของ AS ของญี่ปุ่น



ด้วยข้อมูลตามแบบแปลนของRaven Series นั้นนับได้ว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ ASรุ่น3ทั่วไป ต่ำกว่า ZY-99 Shadow รุ่นลดสเปคของรัซเซียเพื่อการส่งออกซะอีก แต่กลับมีค่า Output ของพาราเดียมรีแอคเตอร์สูงมากจนผิดปกติ เพื่อใช้กับAgile Thruster ที่ไหล่ ทำให้สามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 350km/hr (มากกว่า M9 1.75เท่า) และกระโดดได้สูงถึง400m (M9โดดได้30-40m) ได้ ด้วยเทคโนโลยีArch Jet Engine  ซึ่งปกติจะใช้ได้เฉพาะในอวกาศ แต่ด้วยกำลังขับมหาศาลของพาราเดียมรีแอคเตอร์ในตัวRaven Series ทำให้ใช้ในชั้นบรรยากาศได้  ทำให้สามารถเปลี่ยนทิศกลางอากาศได้ ร่อนได้ แต่ระบบดังกล่าวก็กินพลังงานมากทำให้ใช้ได้แค่10วินาทีแล้วต้องใช้เวลาชาร์จอีก และการควบคุมยังใช้ระบบควบคุมด้วยมือและระบบจับเรตินาของนักบิน ทำให้มีความยากในการใช้และยังเกิดประกายแสงขณะใช้ทำให้ตกเป็นเป้าได้ง่าย  

AS-X Raven Series Variation

Blaze Raven Kai รุ่นรบระยะประชิดและกลาง

Blast Raven รุ่นเพิ่มอำนาจการยิงระยะไกล

Phantom Raven รุ่นเกราะเบา

Aegis Raven รุ่นเกราะหนัก เน้นการป้องกัน และโจมตีประชิด และสนับสนุน
Raven ทุกรุ่นติดตั้ง TAROS Lambda Driver ซึ่งลอกเลียนแบบมาจากซาก ARX-7 Arbalest ที่โดนเบเรียลของเลโอนาร์ดทำลาย แต่เนื่องจากไม่มีเวลาในการตรวจสอบมากพอก็ถูกชิงกลับโดยพวกมิธริลไปสร้าง ARX-8 ทำให้เลียนแบบได้บางส่วน รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานของAS ทำให้ออกมามีลักษณะคล้ายกับ ARX-7 ในด้านระบบ TAROSเองก็ทำได้เพียงจับคลื่นสมองนักบินแปลงเป็นคำสั่งสนับสนุนการบังคับเท่านั้น ไม่สามารถสร้างพลังงานจากจินตภาพได้ แต่นั่นก็ทำให้การเคลื่อนไหวตอบสนองเร็วกว่า ASทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงเวลาคับขัน และการควบคุมขณะเร่งความเร็วด้วย Agile Thruster


สำหรับตัวนี้ผมตัดเส้นสีดำเพิ่มเพราะตัวที่มาดูจืดมาก ด้านรายละเอียดนับว่าบันไดทำมาดี แต่เสียแค่ของที่ให้มาน้อยมากเพราะช่วงที่บันไดวางขายก็ยังมีข้อมูลไม่มากนัก แต่ดูจากชิ้นฮาร์ดพอยท์ก็เดาได้ว่ามันติดอะไรเพิ่มได้เยอะมาก ที่แย่คือนอกจากหอก Dragon Fly ที่ไปแถมกับกล่องลิมิตของ ZY-99M เพราะออกมาทีหลังแล้ว ปืนก็ดันไปแถมกับชาโดว์อีกทั้งๆที่ปืนช็อตกันมันของพื้นๆแท้ๆ ด้านข้อขยับจัดท่าได้เยอะแต่ก็รำคาญบางจุดเช่นชิ้นเข่าหลุดง่ายเลยยัดกาวซะเลย และข้อต่อบางส่วนเล่นมากๆก็หลวมต้องจัดกาว น่าเสียดายคนแต่ง FMP ไปง่วนทำ Amagi Brilliant Park ไม่ได้ทำอนิเมให้จบๆ ภาค Another ที่ต่อมาก็หมดสิทธิโดยปริยาย ไม่งั้นสปอยล์เละ โอกาสที่ร่าง2จะออกทามาชี่ก็หมดไปด้วย ไหนจะหุ่นตัว2ที่ว่ากันว่าอาจเป็นรุ่น4อีก

4 ความคิดเห็น:

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  2. แก้ไขข้อมูล Max Speed กะ Max jump
    Max Speed ขณะบูสคือ 350
    Max Jump ขณะบูสคือ 400 (สูงกว่าหอคอยโตเกียว) M9 Max Jump คือ 30-40m

    ตอบลบ
  3. ข้อมูลแน่นดีแท้ อ่านมังงะภาคนี้ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ หรือต้องรอตัวนี้ออกก่อนจะสนุกขึ้นรึเปล่า(จำไม่ได้ว่าออกถึงเล่มไหน แต่เล่มที่อ่านไว้ล่าสุดที่ท้ายเล่มเปิดตัวหุ่นหใม่น่ะ)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เล่ม2เอง ภาคนี้ไม่ค่อยดัง ส่วนนึงเพราะไม่ใช่ของอาจารย์ กาโต้ โชจิ แต่แกให้ โอคุโร่ นาโอโตะแต่ง แกแค่ไกด์ (ประมาณเซย์ย่าลอสแคนวาสมั้ง) แกไปแต่ง Amagi brilliant park

      เนื้อเรื่องช่วงแรกรู้สึกยืดๆไงไม่รู้ปาไป2เล่มพระเอกยังไม่ได้หุ่นใหม่เลย มุขตลกก็ยังทื่อๆสู้ภาคแรกไม่ค่อยได้ (จะให้พระเอกเอารองเท้าแตะตบนางเอก แบบจิโตริเบิ้ดกระบาลโซซุเกะก็ไม่ได้) ภาคแรกตอนซีเรียสท้ายๆยังหยอดมุขให้ฮาแตกอยู่เลย ฉากสู้ก็ยังชิวๆไม่ได้ถึงเลือดถึงเนื้ออะไร คิดว่าเดี๋ยวคู่แข่งหัวใจนางเอกออกมาก่อนน่าจะสนุกขึ้น

      ข้อดีภาคนี้เท่าที่รู้คือมีหุ่นโผล่มาเยอะมาก ยังกับ Muvluv Alternative Total Eclipse เลย เพราะพวกพระเอกต้องไปหลายประเทศ แถมวาริเอชั่นอีกเพียบ แค่ M9 ก็ปาไปเกือบ5แบบ สายโรบอทเมคานิคน่าจะชอบตรงนี้

      ลบ