yunaW1

yunaW1

วันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

[Hasegawa 1/100 Virtual-On] Temjin 747J Get Ready (In The Blue Sky)



Cyber Trooper Virtual-On เกมตู้บังคับหุ่นยนต์ต่อสู้กันของค่าย SEGA ซึ่งหลังจากประสบความสำเร็จ ก็ได้มีการทำภาคต่อเนื่องออกมาเรื่อยๆและลงในเครื่องคอนโซล และล่าสุดกำลังร่วมโคลาโบกับการ์ตูนและไลท์โนเวลชื่อดัง To Aru Majutsu Index วางจำหน่ายตัวเกมและไลท์โนเวล ให้เหล่าตัวเอกของ To Aru Majutsu Index บังคับเหล่าเวอร์ชัวลอยด์ต่อสู้

Temjin เวอร์ชัวลอยด์ที่พัฒนาโดย DN Corp เป็นเวอร์ชัวลอยด์ที่มีความสมดุลในทุกด้านเหมาะแก่ผู้เล่นมือใหม่ ในภาคล่าสุด Marz ก็ได้มีการปรับปรุงเป็น Temjin 747 Series และมีการดัดแปลงไปหลากหลายรุ่น Temjin 747Jนั้นเป็นตัวดำเนินเรื่องหลักในบทเนื้อเรื่อง Virtual On Marz และได้ไปเป็นตัวละครใน Super Robot Wars โดยมี AI ชื่อ Chiefเป็นผู้บังคับ



V-Compact ด้านหลังเปิดได้

Temjin ถูกออกแบบมาให้มีความสมดุล จึงมีอาวุธโจมตีได้ทุกระยะด้วยอาวุธประจำตัว Slipner MK6/mz อาวุธประเภทGun Blade และระเบิดมือ Powerd Bomb Mk5d




อาวุธประจำตัว Slipner MK6/mzนั้นสามารถโจมตีได้หลากหลายแบบ


Neutral Launcherกระสุนแสงโจมตีระยะไกล  


Bridge Saber ดาบแสงสำหรับโจมตีระยะประชิด ซึ่งใบดาบแสงสามารถฟาดเป็นคลื่นโจมตีได้ด้วย

Blue Slider ท่าขี่ดาบเพื่อเข้าโจมตีด้วยความเร็ว

Radical Zapper ปืนลำแสงขนาดใหญ่ (Mode Radical Zapper นั้น Hasegawa ได้มีการออกกล่อง Temjin 747J Radical Zapper ภายหลัง) (Credit รูป 1999.jp)




ตัวโมนั้นเป็นของค่าย Hasegawa ในสเกล 1/100 เป็นโมตัวแรกในซีรี่ย์ วางจำหน่ายในปี 2004 ด้วยดีไซน์ที่เต็มไปด้วยลวดลายของ คาโทกิ ฮาจิเมะ ทำให้ตัวโมนั้นออกมาขาวจั๊วะ ผ่ากลางทั้งตัว พร้อมดีคอล3แผ่นใหญ่ๆ และแม้ข้อต่อจุดสำคัญจะแน่นหนาดี แต่จุดเล็กๆเช่นครีบหู กลับหลุดง่ายจนต้องติดกาว ทำให้นักเล่นพลาโมมือใหม่ต่างถอย และมีคนที่หันไปเก็บ Figure ของ kaiyodo ที่มีขนาดราวๆ1/144ดีกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะขายไม่ออกเพราะไม่นานนักก็ออกวาริเอชั่นออกมาอีกเพียบทั้ง White Knight, Fire Fly, Shadow และ Radical Zapper ทั้งยังออกมาอีกหลายตัวเช่น Fei Yen, Aphmard, Myzr, Guarayahar และ Kagekiyo



(รูปใบประกอบจาก 1999.JP)
อยากทำฉลองโคลาโบกับ Index เลยจัดมาลองของ ก่อนทำโมก็ทำใจไว้แล้วว่างานโหดแหงมๆ ขาวจั๊วะแบบนี้ขอลองบังพ่นก่อนถ้าไม่ไหวเดี๋ยวค่อยเอาดีคอลแปะทับเอา ที่ไหนได้สีที่ใช้ไม่ตรงเบอร์กับที่ระบุไว้ในใบต่อ เพราะใบต่อนั้นจะอ้างอิงเบอร์ตามเลขของสีGunze(ตัวใหม่อ้างอิงสีตาม Gaia) แต่ตอนทำไม่ได้ดูเบอร์ เลยต้องกั้นพ่นให้หมด นรกกั้นพ่นเลยมาเยือนด้วยการ พ่นสีวันนึงกั้นพ่น เป็นสัปดาห์ วิธีกั้นพ่นก็เอาดีคอลไปซีรอกส์มาสัก3-4ชุดกันเหนียวแล้วทาบเทปลงไปค่อยๆตัดทีละอันๆแล้วลอกไปแปะบนชิ้นงานทีละนิดๆ บางชิ้นกั้นพ่นกัน3-4รอบ พอออกมาก็มีเลอะๆตามขอบบ้างเพราะใจร้อน ก็ขายผ้าเอาหน้ารอด้วยการทาทับดื้อๆบ้าง ตัดเส้นหนาๆบ้าง

ก่อนตัดเส้นจะเห็นเลอะๆตามขอบ ก็ตัดเส้นหนาๆให้บังขอบไปในตัว บางจุดก็ใช้สกิล ช่างหัวมัน ปล่อยเลยตามเลย (ฮา)


แม้จะบังพ่นแล้วแต่ยังมีลายเส้นๆตามตัวยังกะลายสักและตัวอักษรสัญลักษณ์ต้องมาแปะเพิ่ม ซึ่งถ้ามาลองคิดดูอาจจะคิดถูกที่กั้นพ่นเยอะขนาดนี้ คิดสภาพว่ามานั่งติดดีคอลซ้อนดีคอล2-3ชั้นนี่ก็น่าจะวุ่นเกิน เพราะอย่างที่บอกไอ้นี่มันโมเก่าแก่ดีคอลเริ่มเสื่อม บางอันเสียขาดก็ได้แต่ช่างหัวมันไป แปะไม่อยู่ก็ต้อง Mark setter มาทาทับ บางชิ้นดันใหญ่กว่าชิ้นงานขอบเลยออกไป ขนาดชิ้นเล็กๆยังขาดชิ้นใหญ่ๆถ้าเอามาห่อทั้งตัวแบบนี้คงเละ แถมดีคอลไงๆก็ไม่ทนเท่าทำสี แบบนี้เอามาจัดท่าเล่นได้สบาย ซ่อมก็ไม่ยากด้วย

ลองเทียบกับโมอื่นๆ

ญาติห่างๆแบบ 1/144 R1 Kotobukiya

ญาติจากจีน ไก่นา ดีไซน์คอนเซปท์เดียวกันเป๊ะ


เตี้ยกว่า MG F-91 นิดนึง







เป็นโมที่ทำสีได้ยากที่สุดตัวนึงเลย แต่พอทำเสร็จแล้วรู้สึกสนุกมาก ไม่ได้ทำโมแล้วรู้สึกสนุกแบบนี้มานานแล้ว ทำไปบ่นไปหัวเราะไป แม้งานจะไม่เรียบร้อยแต่ก็ภูมิใจที่ได้ทำโมที่เคยคิดว่าตัวเองไม่มีทางทำได้สำเร็จ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมและติชมครับ ตอนนี้อารมณ์ค้างสั่ง Fei Yen กับ Afharmd ไปอีกอย่างละตัว 

วันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

[Review Frame Arms]LX-00 Ray Falx



LX-00 Ray Falx ค่าย Kotobukiya ราคา 6800 เยน

เปิดกล่องออกมา แผงมีอยู่ครึ่งกล่อง เหลือที่อีกเพียบ ส่วนนึงเพราะมีแผงใหญ่เลยกินที่แนวนอนเยอะ

มีแกนโลหะด้วย สำหรับปีก

เป็นโครง Architect แบบ FA ทั่วไปที่มีการปรับปรุงแล้ว เสริมเกราะ2ชั้น ชั้นแรกเป็นชิ้นใส และประกอบชิ้นขาวทับ ปกติแล้วความแน่นของข้อขยับก็พอๆกับกันพลาทั่วไป แต่เมื่อประกอบอาวุธประจำตัวที่มีขนาดใหญ่ก็รับน้ำหนักไม่ค่อยไหวตามจุดที่เป็น PC จอยท์ เช่น หัวไหล่ เอว และ สะโพก ส่วนที่เป็น พลาสติค PS ยังพอรับน้ำหนักได้



LX-00 Ray Falx เป็น FA ปริศนาที่โผล่มาในช่วงที่ทางสหพันธ์โลกกำลังทำการจู่โจม แพลนท์ของดวงจันทร์และทำลาย FAของดวงจันทร์ไปเป็นจำนวนมาก

ข้อขยับจัดท่าได้มากเนื่องจากดีไซน์เกราะนั้นแนบตัวเฟรมไม่มีชิ้นยื่นออกมาจากโครงมากนัก

Hard Point มีหลายจุด ที่แขนข้างละ3จุด ขาข้างละ5จุด ทำให้สามารถติดอุปกรณ์เสริมได้เยอะ ถึงแม้จะยังไม่ค่อยมีอาวุธที่ติดแล้วดูเข้ากับตัว แต่เชื่อได้ว่าย้อมได้อีกหลายตัว


จุดขยับปีกมีจุดหมุนแนวตั้ง2จุด และแนวนอน2จุด



นอกจากจุดขยับปีกแล้ว ชิ้นส่วนดีเทลบนปีกก็จะมีจุดหมุนแยกต่างหากทำให้จัดท่าได้มาก

ฐานที่แถมมา มีแกนสำหรับหุ่น และแกนสำหรับวางอาวุธขนาดใหญ่ แกนนั้นต้องขันน็อตเพิ่มเพื่อให้รับน้ำหนักของตัวและอาวุธไหว

Arsenal Arms อาวุธประเภทเบเรียล (ผลึกที่สามารถคงรูปด้วยพลังงาน และยิงพลังงานออกไปเป็นอาวุธได้) มีใบมีดให้ 4 แบบ พร้อมแกนสำหรับประกอบให้เป็นอาวุธหลากหลายชนิด

ใบมีดขนาดเล็ก4ชิ้น สามารถต่อกับชิ้นส่วนเสริมเป็นกงจักร เบเรียลแดกเกอร์II และติดตามตัวได้

ใบมีดยาว4เล่มสามารถประกอบเป็น ดาบเบเรียลซอร์ด หอกฮารูน และติดกับปืน BS-R04 เป็น อีเกิ้ลฮันท์ได้

ใบมีดขนาดกลาง2เล่มประกอบเป็น ดาบ/ทอนฟาเบเรียลไนฟ์

โล่ ดีเฟนซ์โรเตอร์II

ประกอบกับใบมีดยาวเป็น ดาบชาเรเน่ หรือประกอบกับปืนBS-R04 เป็น เบโออีตเตอร์


แกนหลักของอาวุธ Arsenal Arms ที่สามารประกอบอกับอาวุธได้หลากหลาย สามารถเปลี่ยนด้ามจับเป็นแบบลันเชอร์ หรือดาบใหญ่ได้ มีชิ้นสำหรับติดเก็บที่หลัง



การประกอบกับอาวุธอื่นจำต้องแกะแยกออกมาแล้วใส่ปืน BS-R04ลงไปเพื่อให้สามารถติดชิ้นอื่นๆเพิ่ม เป็นได้ทั้ง โฟตอนลันเชอร์ หรือดาบใหญ่


ประกอบใบมียาวและกลางเป็น โฟตอนสแลชเชอร์ ติดใบมีดใหญ่เป็น โฟตอนดีโทเนเตอร์


ต้องใช้ชิ้นใบมีดทั้งหมดยกเว้นอันเล็ก และปืน BS-R04เพื่อประกอบเป็นปีกขนาดใหญ่ ทำให้ตอนติดปีกใหญ่จะเหลืออาวุธแค่กงจักร

ปีกสามารถพับมาบังเหมือนโล่ได้

ปี CC224 เดือน 1 ทางฝ่ายโลกไม่สามารถรุกคืบเข้ายึดแพลนท์ของดวงจันทร์ต่อไปได้เนื่องจาก ZO series ได้แก่ มากาซึกิ และ โทลก้าไอน์ ของดวงจันทร์นั้นแข็งแกร่งกว่า ทางฝ่ายโลกวางแผนใช้เบเรียลเวพ่อน Arsenal Arm พร้อม YSX-2D RD/NE Zelfikae Night Edge เพื่อบุกทะลวงแนวป้องกันเข้าไปทำลาย AI ที่ควบคุมแพลนท์  ทว่าแผนล้มเหลวเพราะการยิงของ NSG-ZO/G มากาซึกิโฮวเท็น แต่แล้วก็ปรากฎ FAปริศนาพร้อมกับFAในสนามรบเกิดอาการควบคุมไม่ได้ รวมไปถึงมากาซึกิโฮวเท็นที่โดน FAปริศนาทำลายภายในการโจมตีครั้งเดียว FAปริศนาได้เข้าทำลายแกนกลางของแพลนท์และทำให้การรบที่ยืดยาวมาจบลง หลังจบศึกได้มีการตรวจสอบและมีการตั้งสมมติฐานว่า Zelfikae Night Edgeและ Arsenal Arms ได้วิวัฒนาการรวมตัวกันด้วย Over technology บางอย่าง


ส่วนตัวมองว่าตอนติดปีกใหญ่มันเทอะทะเกิน กินที่อีกตะหาก เลยชอบถอดปีกใหญ่เอาพาร์ทปืนมาถือเป็นกันเบลดดีกว่า

บ่นๆ
1 ปัญหาข้อต่อเดิมๆของFA คือพอรับน้ำหนักตัวปกติไหว แต่พอติดอุปกรณ์ใหญ่ๆก็ไม่ไหวแล้ว อย่างว่าแหละดาบกะปีกใหญ่ขนาดนี้ ไงๆก็ต้องมีฐานมาช่วยรับ การทากาวช้างเสริมช่วยได้หลายจุด เช่นแกน เอว หัวไหล่ สะโพก
2 ชิ้นใสสีม่วงมาเลย ถ้าไม่ได้ซื้อโคโตชอบจะโมเปลี่ยนสียาก เพราะต้องเลือกสีที่เข้ากับชิ้นใสม่วงเท่านั้น ไม่งั้นทำใจเรื่องพ่นชิ้นใสให้ทึบไปเลย ไม่ก็สั่งโคโตชอบได้พาร์ทใส
3 ชิ้นอาวุธมีหลากหลาย แต่พอติดเป็นปีกก็ไม่เหลือทำดาบหรือปืน ถ้าอยากติดปีกพร้อมอาวุธต้องจัดกล่องอาวุธเพิ่ม
4 ปืน BS-R04มีสีไม่ครบ ขาดสีทอง

ชมๆ
1 สวย ดีไซน์แบบโรบอทผสมแฟนตาซีมาเลย ไม่ต้องทำอะไรมากก็สวยแล้ว
2 ชิ้นใสเป็น ABS ทั้งคมและทนทาน
3 ชิ้นปีกมีโลหะเสริมแน่นหนาสามารถขยับไปมาโดยปีกไม่ตก

แล้วแต่คนชอบ
 สีทองตุ่นๆทำสีเองง่ายไม่ต้องล้างสี แต่คนไม่ทำสีอาจไม่ชอบ
ตัวย้อมมาแล้ว ยาคฟารุค แต่อาวุธยาคฟารุคไม่อลังการเท่าตัวนี้ ถ้าชอบอลังการตัวนี้จบเลย ถ้าเรียบๆยาคฟารุคก็ไม่เลว 

สรุปถ้าชอบดีไซน์สไตล์นี้จัดเลย สวยแบบแทบไม่ต้องทำอะไรเลยตัดเส้นพ่นเคลีย์ก็สวยได้ แต่สายคัสต้อมถ้าไม่ได้สั่งโคโตชอบมีชิ้นใสคงลำบากใจหน่อยถ้าอยากเปลี่ยนสี
โชว์จุดขยับด้วย Super Hero Landing